1) สิ่งที่คุณกำลังตามหาคือ ‘ความเป็นอิสระ’ หรือ ‘ความอะลุ่มอล่วย’?
ลองถามตัวเองดูก่อนว่าต้องการ ‘ความเป็นอิสระ’ โดยการได้เป็นเจ้าของกิจการ หรือแท้จริงแล้วเป็นเพียง ‘ความอะลุ่มอล่วย’ ในเวลาการทำงาน
Ashley Stahl กล่าวว่า บางครั้งสิ่งที่หลายคนต้องการอาจเป็นเพียงเวลาการทำงานที่ยืดหยุ่น ให้คุณสามารถออกไปพบเพื่อนๆ ในยามบ่าย เดินซื้อกาแฟก่อนเข้าทำงาน หรือมีเวลาได้ไปรับลูกๆ ที่โรงเรียน หากเป็นเช่นนั้น ทางที่ดีคุณควรลองพูดคุยกับหัวหน้าของคุณถึงความเป็นไปได้ในการอะลุ่มอล่วยเรื่องเหล่านี้ว่าสามารถเป็นไปได้หรือไม่ ฟังแล้วอาจจะเป็นเรื่องยาก แต่หากคุณลองหาเหตุผลดีๆ ว่าทำไมและเพราะอะไร แสดงให้เห็นถึงประโยชน์ที่ทั้งคุณและองค์กรจะได้รับ เชื่อว่าหลายบริษัทจะต้องรับฟังคุณอย่างแน่นอน
เธอยังกล่าวอีกว่า หากทางบริษัทปฏิเสธคำขอของคุณก็ไม่เป็นไร เชื่อเถอะว่ายังมีอีกหลายบริษัทที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการเรื่องเวลาการทำงานที่ยืดหยุ่นได้
“บางครั้งคุณอาจจะไม่ได้อยากเป็นเจ้าของกิจการเอง เพียงแต่ต้องการงานที่ยืดหยุ่นได้ในเรื่องเวลา”
2) ค่านิยมของคุณไปกันได้กับการเป็นเจ้าของกิจการไหม?
การเป็นเจ้าของกิจการเองนั้นอาจไม่เหมาะสำหรับคนที่มีจิตใจเปราะบางสักเท่าไร เพราะกว่าจะถึงจุดที่ประสบความสำเร็จได้อาจเรียกได้ว่า ‘เลือดตาแทบกระเด็น’ เลยทีเดียว Ashley Stahl กล่าวว่า เธอเคยสูญเสียเงินกับการทำธุรกิจมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์ และถือเป็นจุดที่เธอตกต่ำที่สุดในชีวิต
เธอแนะนำว่า ให้ลองพิจารณาความเชื่อเรื่องการเงินของตัวเองดูก่อนว่า ระหว่างการมีรายได้ต่อเดือนที่แน่นอน กับความเชื่อมั่นในตัวเองโดยลุยทำธุรกิจที่เสี่ยงทางการเงิน อย่างไหนที่คุณรับได้? เพราะในปัจจุบันเกินกว่าครึ่งของธุรกิจหน้าใหม่ที่เปิดตัวนั้น ประสบกับความล้มเหลวในช่วง 4 ปีแรกของการทำธุรกิจ
“คุณพร้อมรับความสูญเสีย ก่อนความสำเร็จจะมาถึงหรือไม่ นี่ถึงเป็นเหตุผลว่า
ทำไมการเป็นผู้ประกอบการถึงเป็นพาหนะชั้นดีสำหรับการเติบโตและพัฒนาตัวเอง”
3) ลองทำอาชีพเสริมหรือยัง?
อาชีพเสริมถือเป็นแรงบันดาลใจ และเป็น safe way ชิมลางเป็นผู้ประกอบการหรือเจ้าของธุรกิจ ที่นอกจากจะช่วยสร้างรายได้เสริมแล้ว ยังเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันความฝันที่คุณมีได้ว่า การทำธุรกิจของตัวเองใช่ความฝันของคุณจริงๆ ไหม
Ashley Stahl เล่าให้ฟังว่า เธอเคยมีลูกค้าที่ประสบความสำเร็จจากการลองทำอาชีพเสริม แล้วพบว่าอาชีพเสริมที่ทำนั้นเป็นสิ่งที่เหมาะกับเขา โดยระหว่างการเป็นลูกจ้างก็เก็บเงินและค่อยๆ ปรับเปลี่ยนความคิดบางอย่างเกี่ยวกับเรื่องการเงินเพื่อสร้างความสำเร็จ จนในที่สุดอาชีพเสริมก็กลายมาเป็นอาชีพแบบเต็มเวลาที่เป็นกิจการของเขาในที่สุด
“การเป็นเจ้าของกิจการก็เหมือนรถไฟเหาะ เพราะฉะนั้น คุณต้องแน่ใจว่าเวลาไหนที่เหมาะกับการกระโดดขึ้นไป ถ้ามันใช่ โอกาสและรายได้ก็รอคุณอยู่!”
Published by ETDA on 8 May 2019 SMEONE “ทุกเรื่องครบ…จบในที่เดียว”
เมื่อผู้สูงวัยครองเมือง
คำถามตามมาคือ เมื่อมีผู้สูงวัยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากแล้ว ประเทศจะเป็นอย่างไร ในแง่หนึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม เนื่องจาก
5 เทรนด์ธุรกิจสำหรับผู้สูงวัย ไฟยังไม่มอด
เชื่อว่าผู้สูงวัยหลายคนแม้จะเกษียณอายุแล้วแต่ก็ยังไม่หมดไฟ ยังมีความสามารถทำธุรกิจได้มากกว่าการเลี้ยงหลานอยู่กับบ้านเฉยๆ ทั้งนี้ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้ทำการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูล พบว่า การเลือกอาชีพหลังเกษียณของกลุ่มผู้สูงวัย สิ่งสำคัญที่ต้องพิจารณาคือ ควรเลือกทำในสิ่งที่ถนัด มีความเสี่ยงต่ำ ใช้เงินลงทุนไม่มาก ทำแล้วมีความสุข โดยมี 5 เทรนด์ธุรกิจที่น่าสนใจมาแนะนำดังนี้
ปั้นผู้สูงวัยให้เป็นผู้ประกอบการ SME
สำหรับผู้สูงวัยที่อยากเริ่มต้นอาชีพใหม่แบบมีความมั่นใจมากขึ้น สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ได้วางแนวทางในการส่งเสริมเพื่อสร้างผู้ประกอบการสูงวัย ภายใต้กิจกรรม Born@50 Plus ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายหนึ่งภายใต้โครงการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ (Early Stage) โดยจะมุ่งพัฒนากลุ่มเป้าหมายที่มีอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป ให้มีความพร้อมจะริเริ่มและสามารถเลือกทำธุรกิจที่สนใจได้ตามศักยภาพตัวเอง โดย สสว. จะวางแผนล่วงหน้าให้คนกลุ่มนี้ก่อน 10 ปี เพื่อสร้างให้เข้าใจกลไกธุรกิจก่อนวัยเกษียณ เรียนรู้การใช้ประสบการณ์ ความรู้ความเชี่ยวขาญในสิ่งที่ตนมีพัฒนาให้กลายเป็นธุรกิจที่สามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงได้ต่อไป
สำหรับการดำเนินงานในปี 2562 มีกลุ่มผู้สูงวัยเข้าร่วมกิจกรรม 141 ราย ขณะนี้อยู่ระหว่างการอบรมเชิงลึก จำนวน 97 ราย ซึ่งมีทั้งส่วนที่เป็นผู้ประกอบการอยู่แล้วที่เข้ารับการพัฒนา เพื่อเพิ่มศักยภาพให้กับตัวเอง และกลุ่มที่จะออกมาเป็นผู้ประกอบการใหม่ต่อไป
ยกตัวอย่าง คุณอมราวดี สงวนศักดิ์ หรือป้าตา วัย 65 ปี ถึงแม้จะเกษียนอายุจากพนักงานของธนาคารออมสินแล้ว แต่ไม่ได้หยุดชีวิตการทำงาน โดยไปเรียนรู้ด้านแพทย์แผนไทย จากมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช จนสามารถนำสมุนไพรพื้นบ้านมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เกือบ 30 ชนิด อาทิ น้ำมันนวดเข่า แชมพู ฯลฯ วางจำหน่ายผ่านร้านของฝาก และช่องทาง Facebook (อัมรา ยาไทย) รวมถึงขยายตลาดไปที่ญี่ปุ่น ภายใต้แบรนด์ PINYAHERB อีกด้วย นอกจากนี้ยังเข้ารับการส่งเสริมจาก สสว. เพื่อเข้าสู่การค้าออนไลน์ ภายใต้โครงการ SME Online
เช่นเดียวกับคุณพรชัย จินตโนทัยถาวร ที่ไม่ขอหยุดพักความสามารถของตัวเองไว้ในวัย 64 ปี ด้วยการอัพเดตความรู้ให้แน่นขึ้นกับโครงการพัฒนาผู้ประกอบการใหม่ (Early Stage) ปี 2562 กลุ่ม Born@50+ ของ สสว. จนสามารถลับคมฝีมือประดิษฐ์งานกัดกระจก โดยนำมาแกะลายและนำไปพ่นทรายในเครื่อง และทำการลงสีตามลักษณะของชิ้นงาน สร้างงานที่เป็นเอกลักษณ์ จนได้รับความไว้วางใจจากทั้งร้านอาหาร ร้านของตกแต่ง บ้านจัดสรรและคอนโดที่นำไปตกแต่งภายในบ้าน
นี่เป็นส่วนหนึ่งของผู้ที่ไม่ยอมปล่อยให้ตัวเลขกำหนดชะตาชีวิต แต่เลือกที่จะลิขิตชีวิตในแบบฉบับที่เขาเป็นผู้กำหนดขึ้นเอง
Published on 1 August 2019
SMEONE "ทุกเรื่องครบ...จบในที่เดียว"
1. จองชื่อบริษัท
สิ่งแรกที่ผู้ประกอบการต้องดำเนินการ คือ จองชื่อบริษัท ด้วยการเข้าไปยื่นจองชื่อนิติบุคคลผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ตที่เว็บไซต์ www.dbd.go.th คลิกที่เมนู จองชื่อนิติบุคคล ซึ่งชื่อที่จะใช้นั้นต้องไม่ซ้ำ หรือใกล้เคียงกับบริษัทที่เคยจดทะเบียนไปแล้ว โดยจะทำการจองได้ครั้งละ 1 ชื่อเท่านั้น จากนั้นให้ดำเนินการจองชื่อและนายทะเบียนจะทำการตรวจสอบ เมื่อจองชื่อได้แล้วจะต้องยื่นจดทะเบียนภายใน 30 วัน ไม่เช่นนั้นต้องทำการจองชื่อใหม่
2. จัดเตรียมข้อมูลให้พร้อม
ในการจดทะเบียนบริษัท ผู้ประกอบการจำเป็นต้องเตรียมข้อมูลสำหรับจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิและการจดจัดตั้งบริษัท ซึ่งหนังสือบริคณห์สนธิ คือ หนังสือที่แสดงความต้องการในการจัดตั้งบริษัท มีไว้เพื่อระบุขอบเขตต่างๆ ของธุรกิจ โดยผู้ประกอบการสามารถจดทะเบียนบริษัทและจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิไปในคราวเดียวกันได้ แต่จะต้องมีการเตรียมข้อมูลให้พร้อมเพื่อความถูกต้องและรวดเร็ว
สำหรับข้อมูลที่ต้องเตรียมไว้ให้พร้อมมีดังนี้
3. ยื่นคำขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทผ่านระบบออนไลน์
การยื่นขอจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท สามารถดำเนินการผ่าน ระบบจดทะเบียนนิติบุคคลทางอิเล็กทรอนิกส์ (e-Registration) ในเว็บไซต์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า โดยสามารถยื่นจดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ทั้งในรูปแบบของห้างหุ้นส่วน หรือบริษัทจำกัด
เริ่มจากลงทะเบียนเพียงครั้งเดียว เพื่อขอรับ Username และ Password สำหรับใช้งานระบบ e-Registration ได้ที่ส่วนจดทะเบียนธุรกิจกลาง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า และสำนักงานพัฒนาธุรกิจการค้าเขต 1-6 หรือ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ โดยผู้ประกอบการต้องไปแสดงตัวตนต่อหน้านายทะเบียน หรือจะมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการแทนก็ได้ เท่านี้ก็จะมีรายมือชื่ออิเล็กทรอนิกส์สำหรับจดทะเบียนนิติบุคคลแล้ว
จากนั้นให้ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบ e-Registration เพื่อยื่นคำขอจดทะเบียน และชำระค่าธรรมเนียม หากผู้ประกอบการชำระค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนบริษัทครบถ้วนแล้ว นายทะเบียนจะทำการรับเรื่องจดทะเบียน และแจ้งผลการจดทะเบียนผ่านอีเมล์ เมื่อท่านได้รับอีเมล์ ถือเป็นที่สิ้นสุดการจดทะเบียนบริษัทออนไลน์ จากนั้นรอรับหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัท ซึ่งจะถูกจัดส่งให้กับท่านทางไปรษณีย์ตามที่อยู่ ซึ่งได้ระบุไว้ในระบบการลงทะเบียน e-Registration นั่นเอง
Published on 30 July 2019
SMEONE "ทุกเรื่องครบ...จบในที่เดียว"
Published on 26 July 2019
SMEONE "ทุกเรื่องครบ...จบในที่เดียว"
ด้วยเหตุนี้ จึงอยากดึง Lifestyle บน online มาสู่ offline เป็นอีกหนึ่งการเชื่อมต่อสิ่งดีๆ ให้กับทุกคน ที่สามารถเข้าถึงสามารถได้ลงมือทำจริง โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือคนที่ชื่นชอบการทำกิจกรรมนอกบ้าน รักการทำอาหาร อยากเรียนรู้การทำอาหาร รวมไปถึงแม่บ้านยุคใหม่ที่มีเวลาว่างและอยากหาความรู้เพิ่มเติม โดยคาดการณ์ว่าจะมีคนมาใช้ Co - Cooking Space จำนวน 200-300 คน ต่อเดือน นอกจากนั้น เรายังมีพันธมิตรอย่าง Electrolux, Geoluxe และ True Digital Park เข้ามาร่วมสนับสนุน Wongnai Co - Cooking Space อีกด้วย
Wongnai Co - Cooking Space พร้อมเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ มีกิจกรรมการเรียนการสอนทำอาหาร
กับทีมเชฟจาก Wongnai และยังมีพื้นที่รองรับการจัดกิจกรรมต่างๆสำหรับเหล่าคนรักการทำอาหาร ซึ่งพื้นที่แห่งนี้เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ช่วยเชื่อมต่อคนไทยเข้าสู่กิจกรรมไลฟ์สไตล์ดีๆ ตามวิสัยทัศน์“Connect People to Good Stuff” ของ Wongnai อีกด้วย
สนใจข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อได้ที่ https://www.facebook.com/wongnaicocooking หรือโทร 098-994-6567
Published on 12 July 2019
SMEONE "ทุกเรื่องครบ...จบในที่เดียว"