Bearing Petcare ด้วยรักและห่วงใย รู้ใจคนเลี้ยงสัตว์

Bearing Petcare ด้วยรักและห่วงใย รู้ใจคนเลี้ยงสัตว์

ความน่ารักของสัตว์เลี้ยง เป็นสิ่งที่ยากเกินจะห้ามใจของคนเลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าใคร ต่างต้องการที่จะได้เล่น ได้มีช่วงเวลาอยู่ใกล้ชิดร่วมกัน แต่ทุกคนที่เลี้ยงสัตว์ย่อมรู้ดีว่า การเลี้ยงสัตว์ มีเรื่องที่ต้องรับมือให้ได้ คือเรื่องกลิ่นและเรื่องเห็บหมัด จากความอยากเล่นอยากใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงนี้เอง ที่กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาสินค้ากลุ่ม Pet Care อย่างเข้าใจ ใส่ใจ และรู้ใจคนรักสัตว์เลี้ยงมาตลอด 50 ปี ของ Bearing Petcare

Bearing Petcare เป็นแบรนด์ที่อยู่ภายใต้ กลุ่มบริษัท คิงสเตลล่า กรุ๊ป จำกัด โดยมี คุณเบนซ์ - ชุติพนธ์ กิตติเกษมศักดิ์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รุ่นที่ 3 ที่ต้องการพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์อย่างครอบคลุมทุกเรื่องของคนเลี้ยงสัตว์ ตั้งแต่ แชมพู อาหารเสริม ขนม ไปจนถึงสิ่งของเครื่องใช้

คิดครบ เพื่อสัตว์เลี้ยง

เนื่องจากคุณเบนซ์เป็นคนรักสัตว์ และได้ใช้เวลาคลุกคลีอยู่กับสัตว์เลี้ยงด้วยตัวเอง จึงสามารถพัฒนาสินค้าได้อย่างเข้าใจ และแก้ปัญหาได้ตรงจุด ตัวอย่างเช่น ปัญหาเรื่องเห็บหมัด จริง ๆ แล้วมีแชมพูรักษาเรื่องเห็บหมัดอยู่มากมายทั่วไปในท้องตลาด แต่โดยมากสามารถรักษาเห็บหมัดได้ แต่ไม่ได้ดูแลผิวหนังของสัตว์เลี้ยง เพราะอาจมีสารเคมีที่ทำร้ายผิวหนัง จึงเป็นที่มาของการพัฒนาแชมพูรักษาเห็บหมัดสำหรับสัตว์เลี้ยง สูตรดูแลผิวหนังให้ตัวหอมและให้ขนฟูนุ่ม สูตรดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ของ Bearing Petcare รวมถึงสูตรที่มีการคิดถึงลักษณะเฉพาะของแต่ละสายพันธุ์ เช่น ขนสั้น ขนยาว ขนสีขาว เป็นต้น

แม้แต่ในการทำผลิตภัณฑ์ขนมสำหรับสัตว์เลี้ยง ก็ยังต้องคำนึงถึงประโยชน์ โชณาการที่เหมาะสม ต่อสัตว์เลี้ยง คือโปรตีนต้องสูง ไขมันต้องต่ำ โซเดียมต้องต่ำ ในการเป็นรุ่นที่ 3 ที่เข้ามาดูแลธุรกิจที่มีอายุกว่า 50 ปี คุณเบนซ์ เลือกที่จะใช้การต่อยอดธุรกิจจากสิ่งเก่าที่แบรนด์สร้างไว้เป็นพื้นฐาน ให้องค์กรสามารถก้าวไปข้างหน้าอย่างทันยุค ทันสมัย โดยมีสิ่งที่เชื่อมั่นว่า จะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจริง ๆ ทุกการสร้างสรรค์ เพื่อช่วยให้ผู้อื่นสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น ตามวิสัยทัศน์ขององค์กรว่า “Empower better living for all” โดยมีการกำหนดแนวทางหลักไว้ 4 เรื่อง คือ

  1. เชื่อว่าสินค้าเราดี และต้องนำสินค้าไปให้ถึงมือผู้บริโภคให้ได้
  2. การพัฒนาสินค้าใหม่ที่ช่วยลูกค้าใน 3 ด้าน: Better Relax, Better Time, Better Health
  3. ให้ความสำคัญกับทีมงาน พัฒนาศักยภาพของทีมงานเพื่อให้องค์กรมีประสิทธิภาพ
  4. การดูแลรักษาโลก

สิ่งที่คุณเบนซ์ได้เรียนรู้จากการเข้ามาดูแลองค์กรที่สามารถผ่านพ้นวิกฤติต่างๆ มาได้นานหลายทศวรรษ นอกเหนือไปจากการทำให้องค์กรมีประสิทธิภาพสูงแล้ว การมีสินค้าหลากหลายที่สามารถตอบโจทย์ให้กับผู้ใช้งานได้อย่างครอบคลุมก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเทรนด์ความสนใจของสังคมอาจเปลี่ยนแปลงไปไม่แน่นอน แต่สินค้าที่ช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันของผู้คนได้จริง จะอยู่รอดในทุกสถานการณ์ คุณเบนซ์เชื่อว่า หากเราทำสิ่งที่ดีให้กับโลกใบนี้ กำไรหรือยอดขายมันจะตามมาเอง จากสิ่งที่เราทำ


ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่

Bearing Petcare

Facebook: BEARING Petcare

Shopee: bearingofficial

Lazada: bearing-petcare

YouTube: BEARING PetCare

บทความแนะนำ

สินเชื่อเพื่อ SMEs 3 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

สินเชื่อเพื่อ SMEs 3 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้


✔ ให้วงเงินกู้สูง 20 ล้านบาท

✔ อัตราดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี ถึง 30 มิ.ย. 68

✔ ผ่อนสบายสูงสุด 10 ปี

✔ ปลอดชำระเงินต้นสูงสุด 12 เดือน

✔ กู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล


ศึกษาข้อมูลสินเชื่อเพิ่มเติมได้ที่ https://www.smebank.co.th/loan/souththailand/


ขอขอบคุณข้อมูลจาก SME D Bank


#SMEONE #SMEไทยก้าวไกลทันโลก #สินเชื่อSME #3จังหวัดชายแดนใต้

 

บทความแนะนำ

SME D Bank เปิดรับเอสเอ็มอี ร่วมกิจกรรมพัฒนาธุรกิจด้วยนวัตกรรม BCG Model

🟢SME D Bank เปิดรับเอสเอ็มอี ร่วมกิจกรรมพัฒนาธุรกิจด้วยนวัตกรรม BCG Model🟢
 
📌ฟรี! ติวเข้มเชิงลึก ประกบตัวต่อตัว ดันเติบโตยั่งยืน พร้อมเข้าถึงแหล่งทุนวงเงิน 50 ลบ.
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เดินหน้าภารกิจธนาคารเพื่อการพัฒนา ส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอียกระดับธุรกิจเติบโตสู่ความยั่งยืนด้วยแนวทาง BCG Model โดยร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) จัดกิจกรรม “พัฒนาผู้ประกอบการ SMEs สู่นวัตกรรมทางธุรกิจ ตามแนวทาง BCG Model” (Innovation Business to BCG Model) ผ่าน 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย
.
💡ขั้นตอนที่ 1. Grooming online เปิดรับสมัครผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีความพร้อมจะต่อยอดธุรกิจด้วยแนวทาง BCG Model จำนวน 500 ราย เข้ารับการอบรมผ่านออนไลน์ ในหลักสูตรบริหารแนวความคิด สร้างกลยุทธ์ธุรกิจพิชิตใจลูกค้า และได้ผลกำไรอย่างยั่งยืน แบ่งการอบรมเป็น 5 รุ่น รุ่นละประมาณ 100 ราย ระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน 2566
.
💡ขั้นตอนที่ 2. Biz Clinic Online คัดเลือกรายที่มีความพร้อมและเหมาะสมจาก 500 ราย เหลือ 50 ราย เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญจาก มจพ. เยี่ยมสถานประกอบการ พร้อมแนะนำแนวทางต่อยอดยกระดับธุรกิจด้วยนวัตกรรมต่างๆ
.
💡ขั้นตอน 3. One on One ทั้ง 50 ราย จะได้รับคำปรึกษาเชิงลึกและแผนปฏิบัติการเฉพาะทางจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนำไปใช้ ยกระดับธุรกิจให้มีนวัตกรรมตามแนวทาง BCG Model ต่อไป เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ การจัดการพลังงาน การปรับปรุงกระบวนการผลิตตามแนวทาง BCG เป็นต้น
.
📌นอกจากนั้น ผู้ประกอบการทุกรายที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรม จะได้รับบริการ “เติมทุนคู่พัฒนา” จาก SME D Bank ช่วยเตรียมความพร้อมเข้าถึงแหล่งทุน ผ่าน “สินเชื่อ BCG Loan” วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 15 ปี อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 4.75%ต่อปี (MLR -2.75%) สามารถใช้ได้ทั้งลงทุน ปรับปรุง ขยาย ปรับเปลี่ยนธุรกิจ รวมถึง Refinance ช่วยยกระดับธุรกิจสู่ความยั่งยืนตามแนวทาง BCG Model ควบคู่รับการพัฒนา ผ่านโครงการ “SME D Coach” อย่างต่อเนื่อง
.
📌ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม “พัฒนาผู้ประกอบการ SMEs สู่นวัตกรรมทางธุรกิจ ตามแนวทาง BCG Model”
 
สมัครได้ฟรี ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 10 กันยายน 2566 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายพัฒนาและสนับสนุนผู้ประกอบการ SME D Bank
โทร. 02-265-4978 และ 02-265-3192 หรือ Call Center 1357
 

บทความแนะนำ

ห้ามพลาด! สินเชื่อ GSB Re-open

ผู้ประกอบการห้ามพลาด!! พร้อมให้ธุรกิจโรงแรม และ Supply Chain ของโรงแรม, ร้านอาหาร, ธุรกิจที่เกี่ยวกับเอกลักษณ์/อัตลักษณ์ท้องถิ่นได้กลับมาปังอีกครั้ง

กับ “สินเชื่อ GSB Re-Open” โดยธนาคารออมสิน พร้อมหนุนผู้ประกอบการโรงเเรม ให้กู้เพื่อนำเงินไปปรับปรุงซ่อมแซมสถานประกอบกิจการ

จัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ ลงทุนในทรัพย์สินถาวร หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่มีบุคคลสัญชาติไทยถือหุ้นเกิน 50% ของทุนจดทะเบียน วงเงินโครงการรวม 3,000 ล้านบาท

โดยเปิดให้ยื่นกู้ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 – 30 ธันวาคม 2566 หรือจนกว่าวงเงินของโครงการจะหมด

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาหรือ GSB Contact Center 1115 และสามารถติดตามข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ www.gsb.or.th 

หรือ Facebook: GSB Society

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Marketing Oops



#SMEONE #SMEไทยก้าวไกลทันโลก #สินเชื่อ #ธุรกิจโรงเเรม

บทความแนะนำ

โรงคั่วกาแฟวังน้ำเขียว พลิกวิกฤติชีวิตด้วยกาแฟ

โรงคั่วกาแฟวังน้ำเขียว พลิกวิกฤติชีวิตด้วยกาแฟ

ธุรกิจล้ม...แน่นอนว่าเป็นสิ่งที่คนทำธุรกิจทุกคนไม่คิดฝันให้เกิดขึ้น แต่ในความเป็นจริงแล้ว ตลอดเส้นทางธุรกิจมักมีปัจจัยต่าง ๆ ที่อยู่เหนือการควบคุมเข้ามาสร้างผลกระทบให้ธุรกิจอยู่เสมอ ตัวอย่างเช่น สถานการณ์บ้านเมือง และภัยพิบัติต่าง ๆ ที่อาจส่งผลกระทบรุนแรงจนทำให้ธุรกิจที่เคยมีสถานะมั่นคง กลับกลายเป็นไม่ได้ไปต่อ

คุณปกรณ์ เตชสิทธิ์วรโชติ เจ้าของโรงคั่วกาแฟวังน้ำเขียว และหัวหน้ากลุ่มผู้ปลูกกาแฟของอำเภอวังน้ำเขียว ก็เป็นหนึ่งคนที่สู้จนสามารถพลิกฟื้นตัวเองขึ้นมาได้เมื่อพบวิกฤติชีวิต จากธุรกิจอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่กำลังไปได้สวย แต่กลับโดนผลกระทบโดยตรงจากเหตุการณ์บ้านเมืองและมหาอุทกภัย ส่งผลให้ธุรกิจต้องปิดตัวลงและมีหนี้สินกว่า 50 ล้านบาท

แม้จะสูญเสียใหญ่ แต่ชีวิตก็ยังไม่ถึงกับเสียศูนย์ ในช่วงเวลาปั่นป่วนนั้น คุณปกรณ์ เลือกที่จะถอยกลับมาใช้เวลาตั้งหลักใหม่ ด้วยการกลับบ้านและเลือกที่จะออกบวชเพื่อให้ธรรมะช่วยตั้งสติ เมื่อตั้งสติได้จิตใจนิ่งดีแล้ว ก็กลับออกมาวางแผนเพื่อลุยต่อ สิ่งแรกที่ คุณปกรณ์ ทำ คือการกลับไปคุยกับธนาคารเพื่อหาแนวทางในการชำระหนี้ คุณปกรณ์บอกกับธนาคารว่า ได้เริ่มมองหาอาชีพใหม่แล้ว กำลังเริ่มต้นใหม่ ด้วยวัยแค่ 30 คุณปกรณ์มั่นใจว่ายังมีแรงที่จะชำระหนี้ให้กับธนาคารได้ ถ้าให้โอกาส ซึ่งทางธนาคารบางแห่งก็ยินยอมที่จะผ่อนปรนการชำระหนี้ให้

โรงคั่วกาแฟคู่ชุมชน    

แต่เดิม คุณปกรณ์ ชอบมาใช้เวลาพักผ่อนที่วังน้ำเขียว เมื่อคิดหาทางเริ่มต้นใหม่ จึงคิดว่าอยากทำธุรกิจที่นี่ และได้เห็นว่าที่วังน้ำเขียวนี้น่าจะปลูกกาแฟได้ มีการศึกษาถึงเอกลักษณ์ของกาแฟแต่ละสายพันธุ์ และได้ทดลองเริ่มปลูก โดยนำต้นกล้ากาแฟอาราบิก้าที่รัชกาลที่ 9 ส่งเสริมให้ปลูก มาใช้เป็นสายพันธุ์หลักในการเริ่มต้น ประกอบกับใช้ศาสตร์พระราขาในการดำเนินธุรกิจ จนสามารถปลดหนี้และยืนขึ้นใหม่ได้อีกครั้ง

ภายในโรงคั่วกาแฟวังน้ำเขียวของ คุณปกรณ์ นั้นมีทั้งการปลูกกาแฟ ปลูกโกโก้ มีโรงคั่วเมล็ด มีโรงงานแปรรูปกาแฟเป็นสินค้าต่าง ๆ มีบ้านพักโฮมสเตย์ ไปจนถึงหน้าร้านสำหรับชื้อสินค้าจากกาแฟ และมีมุมนั่งกินกาแฟในบรรยากาศแม่น้ำ ที่โอบล้อมด้วยภูเขาโดยรอบ เหมาะกับการเข้ามาพักผ่อนหาความสงบอย่างแท้จริง

ในปัจจุบันมีการร่วมกันผลิตกาแฟกับในชุมชน มีการขยายเครือข่าย ด้วยการเพาะต้นกล้าแล้วส่งให้อำเภอใกล้เคียงช่วยกันปลูก มีการเข้าไปแนะนำการปลูกให้เป็นเกษตรอินทรีย์ทั้งหมด พร้อมรับซื้อผลผลิตเพื่อรองรับกับตลาดที่เติบโตขึ้น ช่วยให้ชุมชนมีรายได้ไปด้วยกัน จนสามารถสร้างเครือข่ายได้ทั่วทั้งประเทศ

แผนอนาคตสำหรับโรงคั่วกาแฟวังน้ำเขียวนั้น มีความคิดที่จะนำวิถีชีวิตของเกษตรกรมาทำเป็นสินค้า ที่มากกว่าการจำกัดอยู่แค่กาแฟเพียงอย่างเดียว แต่รวมถึงพืชพรรณต่าง ๆ ที่เกษตรกรในชุมชนทำการเพาะปลูกอยู่ ซึ่งอาจจะเป็นการรวมกลุ่มกันสร้างผลิตภัณฑ์ที่จะสามารถส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ให้ได้สัมผัสถึงเอกลักษณ์ของชาววังน้ำเขียวว่ามีดีอย่างไร คุณปกรณ์ ยังฝากแง่คิดในการทำธุรกิจเอาไว้ว่า ตลอดเวลาที่ทำธุรกิจและใช้ชีวิตมาล้มลุกคลุกคลานทั้งดี ทั้งไม่ดี คนเราเกิดมานั้นต่างเริ่มต้นจากศูนย์ มีเพียงแค่ร่างกายที่ครบ 32 กับสมองที่เรามี เท่านี้ก็เป็นทรัพย์สินที่มีค่าที่สามารถนำไปต่อยอดได้ ขอให้เรามีพลัง อย่าหมดกำลังใจ

ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่

โรงคั่วกาแฟวังน้ำเขียว

ที่อยู่: 185 หมู่ 11 ไทยสามัคคี วังน้ำเขียว นครราชสีมา 30370

โทร: 089 – 054 - 6619

เว็บไซต์: www.wnkcoffee.com

อีเมล: chiwchiw14@hotmail.com

Facebook: โรงคั่วกาแฟวังน้ำเขียว

บทความแนะนำ