PlanToys เด็กดี โลกสวย ด้วยการเล่นที่ยั่งยืน

PlanToys เด็กดี โลกสวย ด้วยการเล่นที่ยั่งยืน

ไม่ว่าคุณจะเป็นเด็ก วัยรุ่น วัยทำงาน หรือผู้ใหญ่ หลายคนอาจเคยได้เห็นได้ผ่านตา ได้เล่น ได้สัมผัสกับเหล่าของเล่นไม้ หน้าตาเป็นมิตร มีกลไกไม้สนุกสนาน สีสันสดใส จาก PlanToys กันมาบ้าง จากความตั้งใจตั้งแต่เริ่มแรกกว่า 42 ปี ของบริษัท แปลน ครีเอชั่นส์ จำกัด ที่อยากจะสร้างสรรค์โลกและสังคมที่ดีขึ้นกว่าเดิม กลุ่มผู้ก่อตั้งทั้ง 7 คน จึงได้รวมตัวกันเปิดบริษัทสถาปนิกขึ้น ซึ่งได้มีการออกแบบอาคารสำคัญต่างๆ มีเอกลักษณ์จนเป็นที่จดจำเอาไว้มากมาย แต่นั่นก็ยังไม่เพียงพอที่จะตอบสนองเสียงเรียกร้องในจิตใจที่ปักธงร่วมกันไว้ตั้งแต่ต้น ที่อยากทำให้สังคมความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วย

กลุ่มผู้ก่อตั้งได้กลับมาคิดทบทวนกันอีกครั้งจนได้คำตอบว่า การจะสร้างสังคมที่ดีได้นั้น ต้องพัฒนาเด็กในสังคม ให้เติบโตขึ้นมาอย่างมีคุณภาพ ด้วยคำตอบนี้ทำให้กลุ่มผู้ก่อตั้ง ได้ทำการจัดตั้งโรงเรียนขึ้น ชื่อว่า โรงเรียนอนุบาลรักลูก โดยมีสื่อการเรียนการสอนที่ถูกออกแบบใหม่ทั้งหมด โดยออกแบบให้เป็นของเล่นที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการที่เหมาะสมครอบคลุมครบทุกด้าน ตามแต่ละช่วงวัย และเป็นจุดกำเนิดของ PlanToys จนถึงทุกวันนี้

เล่นได้ไม่จำกัด

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน PlanToys นั้นเป็นที่รู้จักจากการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายของเล่นที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้กับวัยเด็กทั้งในไทยและในต่างประเทศ โดยยึดถือแก่นความคิด 2 ข้อด้วยกัน 

  • ข้อแรกคือ PlanToys ออกแบบของเล่นทุกชิ้นเพื่อตอบโจทย์ทางด้านพัฒนาการเด็กให้ครบทั้ง 4 ด้าน ร่างกาย อารมณ์ สังคม และ สติปัญญา
  • ข้อที่ 2 คือ ของเล่นของ PlanToys ทุกชิ้นนั้นจะต้องเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

โดยกำหนดเป็นคำพูดประจำใจว่า “Better Kids, Better World, through Sustainable Play” หรือในภาษาไทยว่า “เด็กดี โลกสวย ด้วยการเล่นที่ยั่งยืน” ด้วยวิธีการทำธุรกิจอย่างใกล้ชิดกับกลุ่มลูกค้าทำให้ PlanToys เข้าใจถึงความคิดของลูกค้า ทั้งลูกค้าที่เป็นตัวแทนจำหน่าย และลูกค้าที่เป็นพ่อแม่ผู้ซื้อจริง 

PlanToys พบว่า นอกจากของเล่นที่ช่วยเสริมพัฒนาการให้เด็กเติบโตอย่างสมวัยแล้ว ลูกค้าเองยังมีความต้องการของเล่นที่ช่วยเสริมพัฒนาการให้กับเด็กที่มีความต้องการพิเศษ ให้สามารถเติบโตได้อย่างเหมาะสมในสังคมได้ด้วย จึงเป็นโจทย์ให้ PlanToys ต้องกลับมาออกแบบและทำวิจัยคู่กับนักพัฒนาการเด็ก รวมถึงทำ Workshop กับกลุ่มแม่ที่มีลูกเป็นเด็กที่มีความบกพร่อง เพื่อทำความเข้าใจถึงความต้องการพิเศษในแต่ละด้านของลูกค้ากลุ่มนี้ และพัฒนาจนเป็นของเล่นที่ไม่เพียงเหมาะสมกับความต้องการแบบพิเศษในแต่ละเรื่อง แต่ยังมีหน้าตาน่ารัก น่าเล่น และคุณภาพสูง เช่นเดียวกับของเล่นทั่วไปที่มีอยู่ตามท้องตลาดได้

PlanToys ไม่จำกัดการเล่นให้เป็นแค่เรื่องของเด็กเท่านั้น ยังมีการพัฒนาของเล่นให้กับผู้สูงอายุ เพื่อช่วยชะลอและเสริมสร้างพัฒนาการด้านต่างๆ เช่นเดียวกัน โดยจะเป็นของเล่นที่ทนทาน มีขนาดใหญ่ หยิบจับง่าย มองเห็นอ่านได้ง่าย และมีการออกแบบให้มีโจทย์ปัญหาเพิ่มเข้าไป เพื่อช่วยกระตุ้นการใช้ความคิด และการออกแรงของกล้ามเนื้อในส่วนต่างๆ เข้ามาด้วย

ด้วยแนวคิดที่ใส่ใจสังคมและสิ่งแวดล้อม ทำให้ PlanToys มองไปถึงการทำให้ของเล่นมีความยั่งยืนตลอดช่วงอายุของผลิตภัณฑ์แม้หลังจากเลิกเล่นแล้ว ทุกกระบวนการผลิตของเล่นจึงเลือกใช้วิธีที่ส่งผลกระทบต่อโลกน้อยที่สุด ปลอดภัยต่อทั้งเด็กเล็กและสิ่งแวดล้อม ของเล่นทุกชิ้นสามารถแสดงค่า Carbon Footprint ได้อย่างชัดเจน ของเล่นเด็กนั้นมีอายุการใช้งานสั้น เพราะเมื่อเด็กโตขึ้น ก็อาจจะไม่มีการเล่นของเล่นชิ้นเดิมอีกต่อไป ทาง PlanToys จึงได้พัฒนาระบบการเช่าของเล่นเพื่อหมุนเวียนส่งต่อของเล่นให้กับเด็กๆ ที่ต้องการ

นอกจากการเป็นของเล่นแล้ว PlanToys ยังมีการสร้างพื้นที่ที่จะเสริมสร้างพัฒนาการให้กับเด็กด้วยการเล่น ในชื่อว่า Forest of Play ที่จะเป็นพื้นที่กิจกรรมให้กับเด็กได้เข้ามาเล่นสนุกทั้งในร่มและกลางแจ้งที่เหมาะสมกับเด็กแต่ละช่วงวัย พร้อมเป็นการเรียนรู้การเข้าสังคมร่วมกับเด็กคนอื่นๆ อีกทางหนึ่งด้วย PlanToys ไม่เคยหยุดพัฒนาสิ่งใหม่ๆ และพร้อมปรับตัวไปกับความเปลี่ยนแปลงของโลกและสภาพสังคมตลอดมา แต่ทั้งหมดนั้นตั้งอยู่บนหลักแก่นความคิดทางธุรกิจที่ยึดถือมาตั้งแต่ต้นอย่างไม่เปลี่ยนแปลง และความมั่นคงนี้เอง เป็นเหมือนเสาหลักให้ธุรกิจสามารถดำรงอยู่และดำเนินข้ามผ่านช่วงเวลาต่างๆ ต่อไปในอนาคตได้อย่างยั่งยืน


ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่

PlanToys

ที่อยู่: 114/1 ซอยสาทร 10 ถนนสาทรใต้ แขวงสีลม เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร 10500

โทร: 02-237-9070

อีเมล: mktg@plantoys.com

เว็บไซต์: th.plantoys.com

Facebook: PlanToysTH

Instagram: plantoys.thailand

YouTube: plantoys

Line: @plantoysth

Shopee: plantoys_officialshop

Lazada: plantoys

บทความแนะนำ

Bearing Petcare ด้วยรักและห่วงใย รู้ใจคนเลี้ยงสัตว์

Bearing Petcare ด้วยรักและห่วงใย รู้ใจคนเลี้ยงสัตว์

ความน่ารักของสัตว์เลี้ยง เป็นสิ่งที่ยากเกินจะห้ามใจของคนเลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าใคร ต่างต้องการที่จะได้เล่น ได้มีช่วงเวลาอยู่ใกล้ชิดร่วมกัน แต่ทุกคนที่เลี้ยงสัตว์ย่อมรู้ดีว่า การเลี้ยงสัตว์ มีเรื่องที่ต้องรับมือให้ได้ คือเรื่องกลิ่นและเรื่องเห็บหมัด จากความอยากเล่นอยากใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงนี้เอง ที่กลับกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาสินค้ากลุ่ม Pet Care อย่างเข้าใจ ใส่ใจ และรู้ใจคนรักสัตว์เลี้ยงมาตลอด 50 ปี ของ Bearing Petcare

Bearing Petcare เป็นแบรนด์ที่อยู่ภายใต้ กลุ่มบริษัท คิงสเตลล่า กรุ๊ป จำกัด โดยมี คุณเบนซ์ - ชุติพนธ์ กิตติเกษมศักดิ์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รุ่นที่ 3 ที่ต้องการพัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์อย่างครอบคลุมทุกเรื่องของคนเลี้ยงสัตว์ ตั้งแต่ แชมพู อาหารเสริม ขนม ไปจนถึงสิ่งของเครื่องใช้

คิดครบ เพื่อสัตว์เลี้ยง

เนื่องจากคุณเบนซ์เป็นคนรักสัตว์ และได้ใช้เวลาคลุกคลีอยู่กับสัตว์เลี้ยงด้วยตัวเอง จึงสามารถพัฒนาสินค้าได้อย่างเข้าใจ และแก้ปัญหาได้ตรงจุด ตัวอย่างเช่น ปัญหาเรื่องเห็บหมัด จริง ๆ แล้วมีแชมพูรักษาเรื่องเห็บหมัดอยู่มากมายทั่วไปในท้องตลาด แต่โดยมากสามารถรักษาเห็บหมัดได้ แต่ไม่ได้ดูแลผิวหนังของสัตว์เลี้ยง เพราะอาจมีสารเคมีที่ทำร้ายผิวหนัง จึงเป็นที่มาของการพัฒนาแชมพูรักษาเห็บหมัดสำหรับสัตว์เลี้ยง สูตรดูแลผิวหนังให้ตัวหอมและให้ขนฟูนุ่ม สูตรดั้งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ของ Bearing Petcare รวมถึงสูตรที่มีการคิดถึงลักษณะเฉพาะของแต่ละสายพันธุ์ เช่น ขนสั้น ขนยาว ขนสีขาว เป็นต้น

แม้แต่ในการทำผลิตภัณฑ์ขนมสำหรับสัตว์เลี้ยง ก็ยังต้องคำนึงถึงประโยชน์ โชณาการที่เหมาะสม ต่อสัตว์เลี้ยง คือโปรตีนต้องสูง ไขมันต้องต่ำ โซเดียมต้องต่ำ ในการเป็นรุ่นที่ 3 ที่เข้ามาดูแลธุรกิจที่มีอายุกว่า 50 ปี คุณเบนซ์ เลือกที่จะใช้การต่อยอดธุรกิจจากสิ่งเก่าที่แบรนด์สร้างไว้เป็นพื้นฐาน ให้องค์กรสามารถก้าวไปข้างหน้าอย่างทันยุค ทันสมัย โดยมีสิ่งที่เชื่อมั่นว่า จะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกค้าได้รับสิ่งที่ดีที่สุดจริง ๆ ทุกการสร้างสรรค์ เพื่อช่วยให้ผู้อื่นสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น ตามวิสัยทัศน์ขององค์กรว่า “Empower better living for all” โดยมีการกำหนดแนวทางหลักไว้ 4 เรื่อง คือ

  1. เชื่อว่าสินค้าเราดี และต้องนำสินค้าไปให้ถึงมือผู้บริโภคให้ได้
  2. การพัฒนาสินค้าใหม่ที่ช่วยลูกค้าใน 3 ด้าน: Better Relax, Better Time, Better Health
  3. ให้ความสำคัญกับทีมงาน พัฒนาศักยภาพของทีมงานเพื่อให้องค์กรมีประสิทธิภาพ
  4. การดูแลรักษาโลก

สิ่งที่คุณเบนซ์ได้เรียนรู้จากการเข้ามาดูแลองค์กรที่สามารถผ่านพ้นวิกฤติต่างๆ มาได้นานหลายทศวรรษ นอกเหนือไปจากการทำให้องค์กรมีประสิทธิภาพสูงแล้ว การมีสินค้าหลากหลายที่สามารถตอบโจทย์ให้กับผู้ใช้งานได้อย่างครอบคลุมก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะเทรนด์ความสนใจของสังคมอาจเปลี่ยนแปลงไปไม่แน่นอน แต่สินค้าที่ช่วยแก้ปัญหาในชีวิตประจำวันของผู้คนได้จริง จะอยู่รอดในทุกสถานการณ์ คุณเบนซ์เชื่อว่า หากเราทำสิ่งที่ดีให้กับโลกใบนี้ กำไรหรือยอดขายมันจะตามมาเอง จากสิ่งที่เราทำ


ผู้ที่สนใจสามารถติดต่อได้ที่

Bearing Petcare

Facebook: BEARING Petcare

Shopee: bearingofficial

Lazada: bearing-petcare

YouTube: BEARING PetCare

บทความแนะนำ

สินเชื่อเพื่อ SMEs 3 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

สินเชื่อเพื่อ SMEs 3 จังหวัดชายแดนใต้ เป็นโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ประกอบกิจการใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้


✔ ให้วงเงินกู้สูง 20 ล้านบาท

✔ อัตราดอกเบี้ย 1.5% ต่อปี ถึง 30 มิ.ย. 68

✔ ผ่อนสบายสูงสุด 10 ปี

✔ ปลอดชำระเงินต้นสูงสุด 12 เดือน

✔ กู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล


ศึกษาข้อมูลสินเชื่อเพิ่มเติมได้ที่ https://www.smebank.co.th/loan/souththailand/


ขอขอบคุณข้อมูลจาก SME D Bank


#SMEONE #SMEไทยก้าวไกลทันโลก #สินเชื่อSME #3จังหวัดชายแดนใต้

 

บทความแนะนำ

SME D Bank เปิดรับเอสเอ็มอี ร่วมกิจกรรมพัฒนาธุรกิจด้วยนวัตกรรม BCG Model

🟢SME D Bank เปิดรับเอสเอ็มอี ร่วมกิจกรรมพัฒนาธุรกิจด้วยนวัตกรรม BCG Model🟢
 
📌ฟรี! ติวเข้มเชิงลึก ประกบตัวต่อตัว ดันเติบโตยั่งยืน พร้อมเข้าถึงแหล่งทุนวงเงิน 50 ลบ.
ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank เดินหน้าภารกิจธนาคารเพื่อการพัฒนา ส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอียกระดับธุรกิจเติบโตสู่ความยั่งยืนด้วยแนวทาง BCG Model โดยร่วมกับ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ (มจพ.) จัดกิจกรรม “พัฒนาผู้ประกอบการ SMEs สู่นวัตกรรมทางธุรกิจ ตามแนวทาง BCG Model” (Innovation Business to BCG Model) ผ่าน 3 ขั้นตอน ประกอบด้วย
.
💡ขั้นตอนที่ 1. Grooming online เปิดรับสมัครผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีความพร้อมจะต่อยอดธุรกิจด้วยแนวทาง BCG Model จำนวน 500 ราย เข้ารับการอบรมผ่านออนไลน์ ในหลักสูตรบริหารแนวความคิด สร้างกลยุทธ์ธุรกิจพิชิตใจลูกค้า และได้ผลกำไรอย่างยั่งยืน แบ่งการอบรมเป็น 5 รุ่น รุ่นละประมาณ 100 ราย ระหว่างเดือนสิงหาคม-กันยายน 2566
.
💡ขั้นตอนที่ 2. Biz Clinic Online คัดเลือกรายที่มีความพร้อมและเหมาะสมจาก 500 ราย เหลือ 50 ราย เพื่อให้ผู้เชี่ยวชาญจาก มจพ. เยี่ยมสถานประกอบการ พร้อมแนะนำแนวทางต่อยอดยกระดับธุรกิจด้วยนวัตกรรมต่างๆ
.
💡ขั้นตอน 3. One on One ทั้ง 50 ราย จะได้รับคำปรึกษาเชิงลึกและแผนปฏิบัติการเฉพาะทางจากผู้เชี่ยวชาญ เพื่อนำไปใช้ ยกระดับธุรกิจให้มีนวัตกรรมตามแนวทาง BCG Model ต่อไป เช่น การออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ การจัดการพลังงาน การปรับปรุงกระบวนการผลิตตามแนวทาง BCG เป็นต้น
.
📌นอกจากนั้น ผู้ประกอบการทุกรายที่สมัครเข้าร่วมกิจกรรม จะได้รับบริการ “เติมทุนคู่พัฒนา” จาก SME D Bank ช่วยเตรียมความพร้อมเข้าถึงแหล่งทุน ผ่าน “สินเชื่อ BCG Loan” วงเงินกู้สูงสุด 50 ล้านบาท ผ่อนนานสูงสุด 15 ปี อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 4.75%ต่อปี (MLR -2.75%) สามารถใช้ได้ทั้งลงทุน ปรับปรุง ขยาย ปรับเปลี่ยนธุรกิจ รวมถึง Refinance ช่วยยกระดับธุรกิจสู่ความยั่งยืนตามแนวทาง BCG Model ควบคู่รับการพัฒนา ผ่านโครงการ “SME D Coach” อย่างต่อเนื่อง
.
📌ผู้ประกอบการที่สนใจเข้าร่วมกิจกรรม “พัฒนาผู้ประกอบการ SMEs สู่นวัตกรรมทางธุรกิจ ตามแนวทาง BCG Model”
 
สมัครได้ฟรี ตั้งแต่บัดนี้ถึงวันที่ 10 กันยายน 2566 สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ฝ่ายพัฒนาและสนับสนุนผู้ประกอบการ SME D Bank
โทร. 02-265-4978 และ 02-265-3192 หรือ Call Center 1357
 

บทความแนะนำ

ห้ามพลาด! สินเชื่อ GSB Re-open

ผู้ประกอบการห้ามพลาด!! พร้อมให้ธุรกิจโรงแรม และ Supply Chain ของโรงแรม, ร้านอาหาร, ธุรกิจที่เกี่ยวกับเอกลักษณ์/อัตลักษณ์ท้องถิ่นได้กลับมาปังอีกครั้ง

กับ “สินเชื่อ GSB Re-Open” โดยธนาคารออมสิน พร้อมหนุนผู้ประกอบการโรงเเรม ให้กู้เพื่อนำเงินไปปรับปรุงซ่อมแซมสถานประกอบกิจการ

จัดซื้อเครื่องมืออุปกรณ์ ลงทุนในทรัพย์สินถาวร หรือเป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

สำหรับผู้ประกอบการ SMEs ที่เป็นบุคคลธรรมดา และนิติบุคคลที่มีบุคคลสัญชาติไทยถือหุ้นเกิน 50% ของทุนจดทะเบียน วงเงินโครงการรวม 3,000 ล้านบาท

โดยเปิดให้ยื่นกู้ได้แล้วตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 – 30 ธันวาคม 2566 หรือจนกว่าวงเงินของโครงการจะหมด

หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อสอบถามได้ที่ธนาคารออมสินทุกสาขาหรือ GSB Contact Center 1115 และสามารถติดตามข่าวสารอื่นๆ ได้ที่ www.gsb.or.th 

หรือ Facebook: GSB Society

ขอขอบคุณข้อมูลจาก Marketing Oops



#SMEONE #SMEไทยก้าวไกลทันโลก #สินเชื่อ #ธุรกิจโรงเเรม

บทความแนะนำ